
Jamf Pro – Apple EMM
องค์กรสมัยใหม่ที่นำโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ Apple มาใช้ในการทำงานหรือดำเนินธุรกิจต้องไม่พลาด – Jamf Pro โซลูชั่นเพื่อการจัดการอุปกรณ์แอปเปิ้ลสำหรับองค์กร (หรือ Enterprise Mobility Management: EMM) ซึ่ง Jamf Pro นี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ที่องค์กรต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจลองผิดลองถูกในการใช้งาน แต่แท้จริงแล้ว Jamf Pro เป็นโซลูชั่นที่รู้จักและคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนานในชื่อ Casper Suite
Jamf Pro EMM ถูกออกแบบและสร้างขึ้นเพื่ออุปกรณ์ Apple โดยเฉพาะ เป็นโซลูชั่นที่ผสานรวมระบบรักษาความปลอดภัยและการจัดการอุปกรณ์แบบ Cloud เข้าไว้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Cisco ด้วย Cisco Security Connector ช่วยให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรสามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ Apple ได้สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน Jamf Pro ในเอเชียมีสำนักงานอยู่ที่ฮ่องกงและโตเกียว และมี Support Center ตั้งอยู่ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย ซึ่ง Jamf Pro เป็นโซลูชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกกว่า 20,000 องค์กรที่เลือกใช้ Jamf Pro เพื่อจัดการอุปกรณ์ Apple จำนวนมากกว่า 13 ล้านเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น IBM, Salesforce, Cisco, Microsoft รวมถึงองค์กรในประเทศไทยอย่าง KBANK, CIMB, โรงเรียนนานาชาติ เป็นต้น ที่เลือกใช้โซลูชั่น EMM จาก Jamf Pro เช่นกัน
Jamf Pro สำหรับ Apple Management Lifecycle นั้น มีคุณสมบัติเด่นที่ใช้ในการจัดการอุปกรณ์ Apple อยู่ 6 ด้านคือ
1. Zero-Touch Deployment – ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้ดูแลระบบหรือฝ่าย IT ก็สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก ด้วยการติดตั้งที่ไม่ต้องทำที่อุปกรณ์ทุกเครื่อง สามารถ Enroll และ Deploy ได้โดยการเชื่อมต่อเข้าไปร่วมกับ Apple Business Manager
2. Device Configuration – การจัดการด้วยการสั่งการ โดยสองส่วนหลักคือ Mobile Device Management (MDM) โดย Jamf Pro ทำให้สามารถ Config Profile, Assign Apps และส่งคำสั่งจากทางไกลเพื่อ Lock, Wipe หรือ Activate Lost Mode ได้ และอีกส่วนหนึ่งคือ Jamf Agent เป็นการเพิ่มการจัดการอุปกรณ์ MacOS ที่ทำให้สามารถจัดการอุปกรณ์ในระดับ System ได้ เช่น Running Scripts และการติดตั้ง Packages
3. App Management – ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นให้กับผู้ใช้งาน จาก App Store ได้โดยไม่ต้องใช้ Apple ID ซึ่งเลือกสั่งการได้ทั้ง แบบอัตโนมัติหรือ Self Service Catalog โดยจัดการแบบแต่ละเครื่อง หรือแบบเป็นกลุ่มก็ได้เช่นกัน
4. Extensive Inventory – สามารถตรวจสอบได้ว่ามีอุปกรณ์ Apple อยู่กี่เครื่องและใครเป็นเจ้าของหรือผู้ใช้งานแต่ละเครื่อง รวมถึงการทำ Health Check ของแต่ละอุปกรณ์ว่าสถานะเป็นอย่างไรไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งใดบนโลกก็ตาม นอกจากนี้ ยังสามารถทำการจัดเก็บข้อมูล User, Hardware, Software และ Security ได้อัตโนมัติอีกด้วย
5. Self Service – อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่น รวมถึงการอัพเดทซอฟต์แวร์อุปกรณ์ของตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน Helpdesk
6. Security – รักษาความปลอดภยั ของข้อมูล ทั้งในส่วนข้อมลูบริษัท และข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน ช่วยลดความเสี่ยงจากการโดนไวรัสและภัยคุกคามทางไซเบอร์ ด้วยวิธีจัดการต่าง ๆ เช่น Encryption, Restricted Software เป็นต้น
องค์กรที่สนใจโซลูชั่น Jamf Pro เพื่อใช้ในการจัดการอุปกรณ์ Apple สำหรับองค์กร ทาง WTC พร้อมให้คำปรึกษา จำหน่าย ติดตั้ง และบริการดูแลหลังการขาย ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีโซลูชั่นผลิตภัณฑ์ Apple และ Jamf Pro #WTCcomputer #Apple #JamfPro #Cisco #CasperSuite